วันอังคารที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2552

มิยาบิโดนรุมกลางงานช้างเรกเก้

“มิยาบิ” สุดฮอต หลังเดินทางมาร่วมงานคอนเสิร์ตเรกเก้ที่เมืองไทย เจอหนุ่มไทยน้อยใหญ่รุมถ่ายรูปกันยกใหญ่ ไม่เว้นแม้แต่ “อิทธิพล คุณปลื้ม” ลูกชาย “กำนันเป๊าะ” ด้าน “โจอี้บอย” เจ๋งกว่าพานางเอกเอวีคนดังซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์เที่ยว อ้างต้องดูแลเทคแคร์เป็นเรื่องปกติ ด้านฝ่ายหญิงชมโจอี้บอยหล่อและน่ารัก
  
       ทำเอาฮือฮากันเลยทีเดียวเมื่อ 
“มิยาบิ มาเรีย โอซาว่า” ลูกครึ่งฝรั่งเศส-แคนาดา- ญี่ปุ่น นางฟ้าเอวีชื่อดังจากประเทศญี่ปุ่นเดินทางมาร่วมงาน “CHANG WORLD REGGAE 2009” ที่บางแสนเมื่อวันที่ 24 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยมี “โจอี้บอย” อภิสิทธิ์ โอภาสเอี่ยมลิขิต เจ้าพ่อแร็พหัวเรี่ยวหัวแรงในการจัดงานครั้งนี้คอยให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น
  
       งานนี้ขอบอกว่ามิยาบิแจ้งเกิดไปเต็มๆ ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนก็มีแต่หนุ่มๆ เข้ามาขอถ่ายรูปคู่กันยกใหญ่ นับตั้งแต่เดินออกมาจากโรงแรมเดอะไทด์ รีสอร์ท ซึ่งเป็นสถานที่พัก หนุ่มๆ ทั้งหลายก็พากันเข้ามาขอถ่ายรูปมากมาย แต่ดูเหมือนว่าคนที่มิยาบิจะให้ความสนิทสนมเป็นพิเศษก็คือโจอี้ บอย เพราะนอกจากจะพูดคุยทักทายกันแล้ว 
มิยาบิก็ยังกระโดดซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์เกาะไหล่โจอี้บอยหายออกไปจากโรงแรม จากนั้นก็ไม่มีใครเห็นมิยาบิอีกเลย
  
       กระทั่งการแสดงคอนเสิร์ตเริ่มขึ้นมิยาบิก็ยังไม่ปรากฏตัว ท่ามกลางกระแสข่าวว่านางเอกเอวีคนดังจะขึ้นโชว์ตัวบนเวทีคอนเสิร์ตแห่งนี้ด้วย มีเพียงศิลปินไทยและต่างประเทศที่ขึ้นโชว์บนเวทีอาทิเช่น Diana King (ไดอาน่า คิงส์) หรือ Big Mountain (บิ๊ก เมาน์เทน) รวมถึง Inner Circle (อินเนอร์ เซอร์เคิล) นอกจากนี้ยังมีศิลปินเรกเก้ชื่อดังของเมืองไทยอย่าง "จ๊อบ-บรรจบ", "ทีโบน", "เท็ดดี้ สการ์ แบนด์", "ส้ม อมรา" ,"บุดดา เบลส"ฯลฯ
  
       
นอกจากนั้นแล้วก็ยังมีศิลปินดารามาร่วมชมคอนเสิร์ตไม่ว่าจะเป็น มาช่า วัฒนพานิช, ดา เอ็นโดฟิน , คริส หอวัง , เปอร์ สุวิกรม อัมระนันท์ฯลฯ
  
       แต่ไม่ว่าจะเป็นศิลปินดาราคนไหนก็ไม่มีใครสู้รัศมีนางเอกเอวีอย่างมิยาบิได้ ขนาดมาช่าซูเปอร์สตาร์คนดังของไทยก็ยังไม่ได้รับความสนใจเท่ากับมิยาบิ ตลอดเวลาที่ถูกเก็บตัวอยู่หลังเวทีก็มีแฟนคลับชาวไทยเข้าไปขอถ่ายรูปกันเต็มไปหมด แม้แต่ 
“อิทธิพล คุณปลื้ม” ลูกชายของ “กำนันเป๊าะ สมชาย คุณปลื้ม” ก็ขอแชะภาพไว้เป็นที่ระลึกเช่นกัน
  
       กระทั่งเวลา 02.00 น. นางเอกเอวีคนดังก็ปรากฏบนเวที โดยมีดีเจหนุ่มจากคลื่น EFM.
 “ปอ วรฐก์ ปิฏกานนท์” รับหน้าที่เป็นพิธีกรบนเวทีสอบถามถึงความรู้สึกที่ได้มาเมืองไทย รวมไปถึงความรู้สึกที่มีต่อผู้ชายไทย ซึ่งมิยาบิก็ได้ตอบสั้นๆว่า
  
       “ ฉันชอบฟังเพลงแนวเรกเก้มาก และฉันรู้สึกประทับใจกับผู้ชายไทย ชอบเวลาที่พวกเขายิ้ม ฉันรู้สึกว่าพวกเขาน่ารักมาก และฉันก็ชอบเมืองไทยมากๆ หวังว่าฉันจะได้มีโอกาสกลับมาที่ประเทศไทย และได้มาที่บางแสนอีกครั้ง”
  
       อย่างไรก็ตามภายหลัง “บันเทิงผู้จัดการออนไลน์” ก็ได้ติดต่อกับกับทีมงานเพื่อขอสัมภาษณ์มิยาบิอีกครั้ง ซึ่งก็ได้รับอนุญาตให้สัมภาษณ์ได้แต่มีการสั่งห้ามไม่ให้พูดถึงเรื่องส่วนตัว โดยให้เหตุผลว่าอาจจะไม่เหมาะสม พร้อมกับหันไปกำชับมิยาบิให้ตอบเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับเมืองไทยและความรู้สึกที่มีต่อแฟนๆ ในเมืองไทยเท่านั้น
  
       “ฉันรู้สึกตื่นเต้นมากๆ ที่ได้มาเมืองไทย ส่วนตัวแล้วฉันเองเป็นคนชอบดนตรีแนวเรกเก้-สกาอยู่แล้ว ซึ่งเวลาฉันอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นฉันมักจะไปไนส์คลับเพื่อที่จะไปฟังเพลงแนวนี้ พอฉันได้มาเห็นแฟนเพลงเรกเก้ และแนวสกา ที่เมืองไทยรู้สึกน่ารักดีค่ะ พวกเขาดูน่ารักและมีมิตรภาพที่ดี และฉันก็ชอบสไตล์การแต่งตัวที่พวกเขาแต่งเหมือนพวกคนผิวดำ ฉันดีใจที่ได้มาที่นี่ ชอบที่ผู้คนเป็นมิตร ”
  
       ส่วนความคิดเห็นเกี่ยวกับหนุ่มไทย และความสัมพันธ์กับ “โจอี้บอย” นั้นเจ้าตัวตอบได้เพียงสั้นๆ ก่อนทีมงานจะรีบดึงตัวออกไป
  
       
ถ้าจะให้บอกอะไรถึงหนุ่มไทย ฉันจะบอกว่าหนุ่มไทยน่ารักกว่าหนุ่มญี่ปุ่นอีกนะ ถามถึงศิลปินไทยคนไหนชื่นชอบเป็นพิเศษ คือจริงๆ ฉันก็ไม่ค่อยรู้จักพวกเขานะ แต่ก็คิดว่าพวกเขาก็น่าจะเจ๋งเหมือนกัน ส่วนกับโจอี้บอย ฉันว่าเขาเป็นคนที่หล่อมาก น่ารักด้วย”
  
       
อย่างไรก็ตามบันเทิงผู้จัดการออนไลน์ก็ได้สัมภาษณ์ “โจอี้ บอย” ถึงความสัมพันธ์กับมิยาบินางฟ้าหนังเอวีคนดัง ซึ่งเจ้าตัวก็รีบปฏิเสธทันทีอ้างเพิ่งเจอกัน และเพิ่งรู้จักกันวันแรก
  
       “ที่มีข่าวว่าผมสนิทกับมิยาบิ ที่จริงผมไม่ได้สนิทกันครับ ไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัว เพิ่งมาเคยเจอกันเมื่อกี้เอง
(เห็นพามิยาบิซ้อนมอเตอร์ไซค์ออกไป) อ๋อ ก็เป็นการดูแลคอยเทคแคร์เขามากกว่า อย่าไปคิดอะไรมากเลยครับ เพราะเขาเองก็เพิ่งมาเมืองไทยไม่กี่ครั้ง(ไม่กลัวคนเข้าใจผิดเหรอที่มากับมิยาบิ )อย่าไปคิดแบบนั้นสิ คนไทยเราอย่าไปคิดอย่างนั้นเราไม่ใช่เด็กมัธยม ไม่ใช่เด็กประถมที่แบบว่าเป็นแฟนกันนะๆ คนนี้เป็นแฟนเรา มันไม่ใช่ เราโตแล้ว อย่าไปคิดอย่างนั้น บ้า! (ข่าวมันออกไปแล้วว่าสนิทกัน) ก็เพิ่งรู้จักกันวันนี้ครับ อย่าไปคิดมาก เดี๋ยวพอไปบอกว่าสนิทกันเดี๋ยวก็เอาไปเป็นข่าว ไม่จริงเลยครับผมไม่มีอะไร ผมทั่วไป ผมมีเพื่อนผู้หญิงมากมาย เพื่อนผู้ชายผมก็มีเยอะแยะมากมาย ”
  
       “ถามว่ารู้จักกันได้ยังไง คือผมมีเพื่อนๆ เป็นคนญี่ปุ่นเขาก็เป็นคนประสานงานให้ ทั้งเรื่องคอนเสิร์ตซึ่งเขาช่วยประสานงานให้ตลอดเวลา หลายชาติทั้งญี่ปุ่น อเมริกัน และพอดีคนญี่ปุ่นบอกว่าเฮ้ย! มิยาบิบอกว่าอยากมาเที่ยว เราก็เลยบอกไปว่าไม่มีปัญหาก็ดูแลเขาเต็มที่อย่างดี ก็คือเขาอยากมาเที่ยวเขาก็เต้นอยู่กับคนทั่วไปคือเขาไม่ได้มาในฐานะของอะไรหรือขึ้นโชว์ แต่เขามาเที่ยว ถามว่าทางช้างเชิญมาไหม ก็คือจริงๆ แล้วเราก็ดูแลและยินดีต้อนรับมากกว่า ที่ได้คุยกับเขา เขาก็เป็นคนธรรมดาเป็นเด็กผู้หญิงที่ธรรมดาคนนึงทั่วไป ซึ่งเท่าที่ถามเขาก็เคยมาเมืองไทยตอนเด็กๆ น่าจะเคยมานะตอนเรียนหนังสือมาทัศนะศึกษาและก็เพิ่งมาครั้งนี้แหละ ซึ่งเขาก็ดูสดใสเป็นกันเองก็คือเหมือนเด็กหญิงธรรมดาทั่วไปคนนึงเลยครับ 
(เคยดูผลงานเขาไหม) เคยครับ เคยเห็นครั้งเดียว ไม่อยากดูเยอะเขิน พอพาเขามาชาวไทยเขาก็ไม่มีมาซุบซิบนะเห็นแต่ยิ้มๆ หัวเราะแล้วก็วิ่งเข้าไปถ่ายรูปกันใหญ่เลยทั้งเด็กๆ ผู้หญิงก็เป็นธรรมดาตามนิสัยคนไทย ยังไงก็ต้องต้อนรับ”
  
       กลางวันให้ “มิยาบิ” ซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ แต่ตกกลางคืน “โจอี้บอย” กลับมี “ดวง อัทธเสรี” ลูกสาว นักแสดงรุ่นใหญ่ “หมู กลศ อัทธเสรี” ตามมาให้กำลังใจถึงหน้าเวที ทำเอาหลายๆ คนเป็นห่วงว่างานนี้ รถไฟไทยแลนด์ กับ รถไฟญี่ปุ่นจะชนกันตู้มต้ามหรือเปล่า
  
       “อ๋อ น้องดวงๆ เขามากับคุณแม่ เรื่องที่ออกตัวว่าไม่สนิทกับมิยาบิไม่ใช่ว่ากลัวน้องเขาจะข้าใจผิดหรือเปล่า ไม่มีปัญหาเข้าใจผิดใดๆทั้งสิ้น ถ้ามีแฟนรักแฟน ผมโชว์แฟนออกงานมาตลอด บอกเต็มปากเต็มคำ แต่น้องดวงไม่ใช่ครับ ถ้าผมบอกไม่มีแฟนก็บอกว่าไม่มีแฟน ถ้ามีแฟนก็ไม่เคยปิดยินดีเปิดเผย”
  
       เจ้าตัวยิ้มหน้าบาน หลังกระแสแฟนเพลงเรกเก้ เมืองไทยดีเกินคาด ยอมรับเหนื่อยและลำบากกว่าจะประสานงานศิลปิน เผยเตรียมตัวกับงานนี้นานถึง 6 เดือน
  
       “ก็งานในวันนี้เหมือนผมเป็นผู้จัดครับ คอยติดต่อประสานงาน และก็พาเพื่อนๆศิลปินจากต่างประเทศมา ก็มาเล่นคอยดูรูปแบบของงานทั้งหมด ถามถึงความลำบากในการประสานงาน ผมอยากจะบอกว่าลำบากมาก เพราะว่ามันเป็นครั้งแรกที่ วงดนตรีใหญ่ๆจากต่างประเทศจะมารวมกันครั้งแรกและเยอะขนาดนี้ ต่างคนก็ต่างตื่นเต้น พอเขาได้มาเจอกันต่างคนก็โอ้โห เพราะว่าต่างคนต่างชอบกันเองอยู่แล้วไอ้พวกเราเป็นศิลปินก็ยิ่งชอบพวกเขาไปกันใหญ่และคนดูก็ยิ่งมันก็เลยสนุกมากๆ ผมเองก็สนุกสุดเหวี่ยงมากเมื่อกี้พาแม่ไปเต้นมาหน้าเวที แม่เต้นใหญ่เลย(หัวเราะ)”
  
       “ถามว่าเตรียมงานนานไหม คือผมทำงานกับทศภาคกับช้างมาประมาณ 6 เดือน ตั้งแต่ต้นปีค่อยๆ ใช้เวลา ที่วันนี้ผมอยากจะทำก็คือผมเห็นว่าเรามีคอนเน็กชั่น เราก็แค่อยากจะช่วยให้เขามากันได้ ก็เลยอยากจะทำเหมือนตอนที่เราชวนแบล็กอายพีมาเมืองไทยในสายฮิพฮอพ พอดีเรามีคอนเน็กชั่นเลยมาช่วยๆ กันทำให้มันสนุกๆยิ่งขึ้น สำหรับศิลปินแต่ละวงเขามีความรู้สึกดีๆกับแฟนเพลงชาวไทยนะ จริงๆเขาเดินออกไปดูเวทีเล็ก ที่เป็นเด็กรุ่นใหม่เขาบอกว่าโอ้โห!ประทับใจ ไม่นึกไม่ฝันว่าสิ่งที่เขารักเหมือนกันคือดนตรีเรกเก้จะมีคนสนใจเยอะขนาดนี้ ซึ่งประเทศเราอาจจะตามหลังเขามาแต่ตอนนี้มันก็อยู่ในการพัฒนาไปในทางที่ดี ไม่ว่าจะเป็นนักดนตรีหรืออะไรต่างๆ”
  
       “ เสียงตอบรับของวัยรุ่นบ้านเราซึ่งมันก็เป็นครั้งแรกนะครับ เราก็พยายามทำให้ดีที่สุด ผลตอบรับที่ได้กลับมาก็คือความสนุกสนาน ถามว่าจะมีอีกไหมในปีหน้า จะพยายามนะครับปีนี้ก็เหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว คือตรงนี้เราไม่เหนื่อยหรอกยิ่งได้ขึ้นเวที แต่ว่า4-5 วันก่อนที่พวกเขาจะมาอยู่ที่นี่โอ้โห 4 วง วงละ10 คน ถ้าน้องๆ ศิลปินไทยเราไม่มีปัญหาอะไรคุยกันรู้เรื่อง แต่เมืองนอกต้องค่อยๆใช้เวลา เพราะแต่ละวงใหญ่ทั้งนั้น นั่งรถคันเดียวกันยังไม่ยอม แต่ว่าครั้งนี้เขามาแล้ว เขาได้เห็นบรรยากาศที่เมืองไทยหรืออะไรต่างๆ เขาก้เลยแฮปปี้ อาหารก็อร่อย กินเจกันเกือบครึ่ง ซึ่งก็เข้ากับเทศกาลด้วย ทุกคนก็เลยมีความสุข”
  
       “ถามว่ากระแสเรกเก้ในเมืองไทยดีไหม คือผมบอกเขาตั้งแต่แรกแล้วว่าถ้าจะเอาเงินจ้างเขาอย่างเดียวเป็นไปไม่ได้หรอกครับวงใหญ่กันซะขนาดนี้ค่าตัวมหาศาล แต่สิ่งเดียวที่เวลาโทรไปหาเขาแล้วบอกว่าช่วยหน่อยเถอะ มันเหมือนก้าวสำคัญที่แบบว่าจากเพลงเรกเก้หรือว่าอะไรต่างๆในสายเรกเก้ เริ่มที่จะโตและเริ่มที่จะมีเด็กๆมาสนใจและมาเล่น จากคนฟังพอโตมาแล้วก็เล่น คืออันนี้มันเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้พวกเขามาช่วยกัน เขาก็เลยมา จริงๆ3-4วงมาผมไม่ได้เลือกที่ดังที่สุดในโลกตอนนี้ แต่ผมเลือกจากวงที่คนไทยรู้จักเพลงของเขามากที่สุดในโลก คือโผล่ออกมาแล้วร้องได้ ถามว่าติดต่อยากไหม คือมันก็ต้องลองค่อยๆ ดู มันยากตรงขั้นตอนดิวผู้จัดการหรือวิธีการจัดการมากกว่า แต่ว่าตัวศิลปินเขาอยากจะมาอยู่แล้วและพิเศษไปกว่านั้นเวลาเขาทัวร์กัน เขาออกจากบ้านเขาอย่างน้อยต้องไปเล่นสัก10ประเทศ เช่นเล่นจากนี้แล้วไปต่อสิงคโปร์ เราต้องทำแผนงานไปให้เขา แต่ครั้งนี้เขามาเมืองไทยและก็บินกลับจาเมก้า บินกลับนิวยอร์ก แบบว่ามาเพื่อเมืองไทยโดยเฉพาะเลยครับ”